วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

CLASS VII

M - Commerce (Mobile – Commerce)

            คือภาคธุรกิจที่ดำเนินการตามแนวคิด E – Commerce คือการทำธุรกิจซื้อขายสินค้า หรือให้บริการผ่านทางอุปกรณ์ไร้สาย เช่น มือถือ PDAs เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการพัฒนาให้ง่ายต่อการใช้งาน และสามารถเชื่อมต่อ internet ได้ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการทำธุระกิจ

ความสำคัญของ E – Commerce

-         Ubiquity – สามารถใช้งานได้ทุกที ทุกเวลา
-         Convenience – ความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถต่อ internet ได้ทุกที่ และยังรวดเร็วขึ้นมาก
-         Instant Connectivity – สามารถติดต่อผ่าน internet ได้อย่างรวดเร็วทำให้การติดต่อซื้อขายเป็นไปได้ในทันที รวดเร็วและ ต่อเนื่อง
-         Personalization – สามารถปรับปรุง ตกแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน
-         Localization of Product and Service – สามารถใช้ระบุตำแหน่ง หรือเส้นทางผ่านทางระบบ GPS ได้
ตัวอย่าง ของ M – Commerce
1.     Mobile Banking
2.     Information Based Service
3.     Location Based Service
4.     Mobile Shopping
5.     Mobile Marketing and Advertising
ปัจจัยขับเคลื่อนของ M- Commerce
-         Widespread availability devices หาซื้อได้ทุกที่
-         No Need for a PC เช่น smart phone หรือ tablet ต่างๆ
-         Handset Culture วัฒนธรรมของคนใช้มือถือที่ต้องการให้เป็นมากกว่ามือถือ
-         Declining prices, Increased Functionalities ราคาถูกลง แต่ ความสามารถมากขึ้น
-         Centrino Chip พัฒนาของChipset ในมือถือที่ทำให้เครื่องทำงานได้รวดเร็วขึ้น รวมไปถึงกินไฟน้อยลง
-         Networks 3G, 4G, WIFI, EDGE

M – Commerce Business Models

-         Usage Fee Models
-         Shopping Business Models
-         Marketing Business Models
-         Improved Efficiency Models
-         Advertising Business Models (Flat fees, Traffic-Based fees)
-         Revenue – Sharing Business Models

ตัวอย่างเทคโนโลยีของมือถือในปัจจุบัน
-         โครงสร้างเครือข่าย
1.     3G, 4G – ระบบโครงข่ายไร้สายที่เชื่อมต่อกันผ่านทางคลื่นวิทยุ แทน ซึ่งปัจจุบันมีความเร็วที่สูงมากๆ (1000mbps เป็นมาตรฐานของ 4G ในปัจจุบัน) ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสารกันได้หลายหลายรูปบบมากขึ้นเช่น การส่ง วีดีโอคอล การรับส่งไฟล์ต่างๆ ก็ทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2.     WLAN หรือ ระบบ Wireless หรือการเชื่อต่อ internet แบบ ไร้สาย
3.     EDGE คือการเชื่อมต่อสัญญาณinternet โยนใช้โครงข่ายของคลื่นโทรศัพท์แทนการต่อแบบ WLAN
-         การพัฒนา sim card – ในปัจจบัน sim card ได้รับการพัฒนาที่จะทำให้รองรับข้อมูลต่างๆได้มากขึ้น เช่น รหัสเข้าบัญชีธนาคาร รหัสประจำตัวประชาชน หรือ ประวัติพื้นฐานต่างๆ จึ่งมีการพัฒนาระบบต่างๆเข้ามาใช้ควบคู่กัน ไม่ว่าจะเป็น RFID ใช้ในรูปแบบ touch sim ในการชำระสินต้าหรือค่าบริการต่างๆ
-         ระบบปฏิบัติการต่างๆบนมือถือ เนื่องจากระบบเก่าๆ อย่าง Linux หรือ Sympian หล้าหลังไปมากแล้ว เพราะรองรับความต้องการในการใช้งานปัจจุบันไม่ได้ ทำให้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการต่างๆ หรือ OS ต่างๆ ขึ้นมารองรับการใช้งานตาม life style ของคนยุคปัจจุบัน หรือที่เราเรียกว่า Smart Phone มีระบบต่างๆ ที่สำคัญดังนี้
1.     IOS เป็นระบบที่ทำขึ้นมาของ apple ใน Iphone รุ่นต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนามาจนถึงรุ่น IOS 4.2 แล้ว เรียกได้ว่า เป็นระบบผู้นำในยุคนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากจะรองรับ application ต่างๆ ได้มากถึงหลายแสน app แล้ว ยัง มีความสามารถต่างๆ เช่น ระบบ multi task เป้นต้น นากจากนี้ มันยังเป็นระบบปิด ซึ่งรับประกันได้ ไวรัสและ สแปม ต่างๆ หาได้ยากมากๆ
2.     Android เรียกว่าเป็นน้องใหม่ไฟแรง จาก google  ซึ่งมีการเปิดตัวมาไม่นาน แต่ก็มีการพัฒนาการไปได้อย่างรวดเร็ว จุดเด่นของมันคือเปนระบบเปิด ซึ่งนักสร้างโปรแกรม สามารถนำไปพัฒนาเองได้ แต่ ต้องนำมาขายคืนให้กับ google เท่านั้น ซึ่งทำให้มี รูปบบที่หลากหลาย เรียกได้ว่าสามารถ customize ได้ตามใจ แต่ข้อเสียของมันคือ ไวรัส และสแปม ก็เยอะเหมือนกัน
3.     BB OS หรือ Blackberry OS ซึ่งทาง RIM ได้พัฒนาออกมาเพื่อใช้ในโทรศัพท์  Blackberry นั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของมันแน่นอนว่าอยู่ที่การ chat ไม่ว่าจะเป็น BBM MSN Twitter Facebook และ อื่นๆ อีกมาก นอกจากนี้ ยังรองรับ การ รับส่ง e-mail ได้อย่างว่องไว และสะดวกกว่าเจ้าอื่นๆ เหมาะ กับ นักธุรกิจ ที่ต้องการรับส่งไฟล์ หรือ email อยู่ตลอดเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น