วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Class VI

E-Business and E-Commerce

            คือ การทำธุรกิจบนระบบ Internet เพื่อเพิ่มช่องทางใหม่ในการติดต่อซื้อขาย และเพิ่มความสะดวกให้แก่ทั้งเจ้าของธุรกิจ และ ลูกค้า ซึ่งปัจจุบันธุรกิจในลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูงขึ้น

ตัวอย่าง องค์กรในรูปแบบ E-Business และ E-Commerce

Dell – ใช้ระบบแบบ E-Commerce ซึ่งสามารให้ลูกเค้าเข้ามาสั่งสินค้า แบบ ระบุความต้องการได้ เช่นลุกค้าต้องการ Notebook สเปกต่างๆ ก็จะดำเนินการผลิตตามที่ลูกค้า customize มา ทำให้สามารถตั้งราคาสูงได้ แต่คู่แข่งของ Dell ยังขายสินค้าตามหน้าร้าน

E-Bay – เป็นเว็ปไซต์ที่ใช้ในการประมูลสินค้าต่างๆ ซึ่งผู้ที่ต้องการจะขายสินค้านั้นๆ จะขายสินค้าได้ในราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการแข่งขันในของผู้ซื้อ ซึ่งจะแย่งกันประมูลในสินค้านั้นๆ มากกว่าการขายทอดตลาดแบบทั่วไป

Amazon – เป็นเว็ปไซต์ขายสินค้าต่างๆ ซึ่งเริ่มแรกมาจากการขายหนังสือผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจาก การเปิดหน้าร้านทำให้ไม่สามารถเก็บหนังสือได้ทั้งหมด เก็บไว้ได้แต่พวก best seller เท่านั้น ซึ่งตรงจุดนี้ ทำให้สามารถเก็บหนังสือหายาก หรือ พวกที่ไม่ค่อยมีคนอ่านไว้ได้ (long tail marketing)

Click & Mortar – คือธุรกิจที่มารขายทั้งออนไลน์และมีหน้าร้านด้วย
Brick & Mortar – คือธุรกิจที่มีการขายแค่หน้าร้านอย่างเดียว หรือ แค่แบบ ออนไลน์เพียงอย่างเดียว

E-Commerce Model

Affiliate Marketing – คือการสร้างlinkของธุรกิจคื่นขึ้นในเว็ปไซต์ของเรา และเมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้นจากlink นั้นๆเราจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายด้วย

Bartering Online – เป็นการเปิดเว็บไซต์เสรี ซึ่งเป็นตัวกลางเปิดให้มีการตกลงแลกเปลี่ยนต่างๆผ่านเว็บไซต์ของเราเอง เช่น Craigslist.com

Online Advertisers, Marketers and Students เช่น Facebook.com

Company – Sponsored Socially Oriented Sites เช่น Blogger

Application Programming Interface (API) – เป็นการให้ยืม service ของโปรแกรมๆนึงที่บริษัทนั้นผลิตขึ้นเพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงการสร้างโปรแกรมนั้นๆได้ เช่น Iphone โดยนักพัฒนาของบริษัทต่างๆต้องมี API ของทาง Apple ก่อนจึงจะสามารถสร้างแอพต่างๆของตัวเองได้ ตัวอย่างเช่น “True vision app”

Benefit of E-Commerce
1.     ส่วนขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น รวมไปถึงการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการต่างๆ
2.     เพิ่มช่องทางที่หลากหลายมากขึ้นของลูกค้าในการติดต่อซื้อสินค้า พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
3.     เชิ่อมโยงสังคมต่างๆ ทั่วโลกให้เข้าหากันได้ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนการเดินทาง
4.     ให้บริการได้ตลอดเวลา 24 ชม.

Limitation of E-Commerce
1.     มาตรฐานด้านเทคโนโลยี เช่น กลุ่มผู้ใช้สูงอายุ ที่ไม่มีความรู้ด้าน Internet
2.     ความปลอดภัยของข้อมูลอาจไม่สูงมากนักเพราะต้องคอยระวัง นัก hacker

ตัวอย่างของรูปแบบต่างๆของ E-Commerce
1.     E-Catalog – การนำเสนอสินค้าต่างๆให้เลือกสรรได้บนเว็ปไซต์
2.     E-Auction – เปิดประมูลบน Internet ทำให้คนทั่วโลกสามารถร่วมกันประมูลได้
3.     Bartering – เปิดให้คนทั่วโลกได้ติดต่อแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ต่างคนต่างต้องการ
4.     Customer Service Online ระบบบริการลูกค้าออนไลน์ ทำให้ลดต้นทุนในการไปตั้งศุนย์ตามต่างประเทศ
5.     E-Classifieds – PayPal
6.     Electronic Malls Msn Shopping, We love Shopping, Allibaba
7.     Travel Service – Expedia, Carnival, Travelocity

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น